ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้
(๘) เอกสารราชการ หมายความว่า
เอกสารซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่และให้หมายความรวมถึงสำเนาเอกสารนั้น
ๆ ที่เจ้าพนักงานได้รับรองในหน้าที่ด้วย
(๙) เอกสารสิทธิ หมายความว่า
เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิ
มาตรา ๒๕๑ ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง หรือของเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา ๒๕๒ ผู้ใดใช้ดวงตรา หรือรอยตราดังกล่าวมาในมาตรา ๒๕๑ อันเป็นดวงตรา หรือรอยตราที่ทำปลอมขึ้น ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
มาตรา ๒๖๔ ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด
ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม
หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน
ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
มาตรา ๒๖๕ ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๒๖๖ ผู้ใดปลอมเอกสารดังต่อไปนี้
(๑) เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
(๒) พินัยกรรม
(๓)
ใบหุ้น ใบหุ้นกู้
หรือใบสำคัญของใบหุ้นหรือใบหุ้นกู้
(๔) ตั๋วเงิน หรือ
(๕)
บัตรเงินฝาก
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี
และปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท
มาตรา ๒๖๘ ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา ๒๖๔ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ๒๖๖ หรือมาตรา ๒๖๗ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น
หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเอง ให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว
มาตรา ๒๖๙ ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาแพทย์ กฎหมาย บัญชีหรือวิชาชีพอื่นใด ทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
๑. ผู้กล่าวหารับราชการตำแหน่งใด
มีหน้าที่อะไร
๒. ขอทราบพฤติการณ์ที่ผู้ต้องหานำเอกสารมาใช้แสดงต่อเจ้าพนักงานผู้ใด
ที่ไหน เมื่อใด
๓. จุดประสงค์ที่ผู้ต้องหานำเอกสารมาใช้เพื่อการใด
๔. ขอทราบลักษณะเอกสารที่ใช้
เป็นแบบฟอร์มของทางราชการ หรือจัดทำขึ้นเอง
๕. ผู้กล่าวหาเคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อนหรือไม่
อย่างไร
๖. ผู้ต้องหาประกอบการงานในวิชาแพทย์
กฎหมาย บัญชีหรือวิชาชีพที่ทำคำรับรองเป็นเอกสารของกลางนั้นด้วยหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือไม่
อย่างไร
๗. ผู้ต้องหาได้กรอกข้อความหรือลงลายมือชื่อตรงส่วนไหนของเอกสารบ้าง
และมีส่วนไหนที่ถูกปลอมแปลงบ้าง กี่แห่ง สังเกตหรือรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเอกสารปลอม
๘. มีการใช้หรืออ้างคำรับรองในเอกสารของกลางนั้นด้วยหรือไม่
๙. การกระทำของผู้ต้องหาทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด
หรือประชาชนหรือไม่ และทำให้ผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่
อย่างไร
๑๐. ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ
ผู้กล่าวหาอยู่ที่ใด เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร
๑๑. หลังจากเกิดเหตุ หน่วยงานผู้เสียหายได้ดำเนินการสอบถามผู้ต้องหาในเบื้องต้นหรือไม่
อย่างไร
๑๒. หน่วยงานผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้ผู้กล่าวหามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ใดหรือไม่
อย่างไร
๑๓. ลักษณะของเอกสารที่ถูกปลอมแปลงต่างจากเอกสารที่แท้จริงอย่างไร
๑๔. ขอทราบลักษณะเอกสารแต่ละฉบับ เรียกชื่อว่าอะไร
มีใช้เพื่อการใด ถูกปลอมในตำแหน่งใด เมื่อเปรียบเทียบกับใบรับคำขอที่แท้จริงแล้ว แตกต่างกันกี่แห่ง
อะไรบ้าง (เป็นเอกสารราชการ เอกสารสิทธิ หรือเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ)
๑๕. เอกสารที่ถูกปลอมแปลงในคดีนี้มีกี่ฉบับ
๑๖. ผู้กล่าวหาได้ยึดเอกสารฉบับตัวจริง
ที่ผู้ต้องหากับพวกเอามาใช้ในการกระทำความผิดไว้หรือไม่ อย่างไร
๑๗. ดวงตราที่ประทับในเอกสารของกลาง
แตกต่างจากดวงตราที่แท้จริงอย่างไร
๑๘. ผู้กล่าวหามีเอกสารตัวอย่างที่เป็นต้นฉบับที่แท้จริง
ที่มีลายมือชื่อของบุคคลที่ต้องการตรวจพิสูจน์ที่มีระยะเวลาของการเขียนใกล้เคียงกันกับเอกสารของกลาง
มามอบให้พนักงานสอบสวนหรือไม่ จำนวนกี่ฉบับ ได้มาจากที่ใด ได้ลงลายมือชื่อรับรองบนพื้นที่ว่างของเอกสารตัวอย่างทุกแผ่นแล้วหรือไม่
และมีลายมือชื่อของบุคคลใด ตรงบริเวณใดในเอกสารของกลางที่เชื่อว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันที่ผู้กล่าวหาประสงค์ให้ทำการตรวจเปรียบเทียบ
๑๙. พนักงานสอบสวนได้จัดให้เจ้าของลายมือชื่อได้เขียนลายมือชื่อแบบเดียวกันกับลายมือชื่อในเอกสารของกลางต่อหน้าพนักงานสอบสวนหรือไม่
กี่หน้ากระดาษ และได้ลงลายมือชื่อรับรองบนพื้นที่ว่างของเอกสารตัวอย่างทุกแผ่นแล้วหรือไม่
๒๐. ผู้กล่าวหามีดวงตราหรือตราประทับตัวอย่างที่เป็นต้นฉบับที่แท้จริง
ส่งมาให้พนักงานสอบสวนได้หรือไม่ จำนวนกี่ดวงตรา ได้มาจากที่ใด ใช้ประทับในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ปรากฏในเอกสารของกลางคดีนี้หรือไม่
และมีรอยตราตรงบริเวณใดในเอกสารของกลางที่เชื่อว่าไม่ใช่รอยตราที่แท้จริงของทางราชการที่ผู้กล่าวหาประสงค์ให้ทำการตรวจเปรียบเทียบ
๒๑. มีการจัดให้ประทับตัวอย่างรอยตราประทับที่แท้จริงลงบนกระดาษต่อหน้าพนักงานสอบสวนหรือไม่
กี่หน้ากระดาษ และได้ลงลายมือชื่อรับรองในเอกสารตัวอย่างรอยตราประทับทุกแผ่นแล้วหรือไม่
๒๒. ผู้กล่าวหาได้พบเห็น
หรือมีพยานพบเห็น ว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้ลงมือปลอมเอกสารและรอยดวงตรานั้นหรือไม่ มีวิธีการปลอมเอกสารนั้นอย่างไร
มีการยึดเครื่องมือเครื่องใช้ในการปลอมเอกสารนั้นด้วยหรือไม่
๒๓. ขอทราบชื่อ อายุ ที่อยู่ ตำหนิรูปพรรณผู้ต้องหา และมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหามาแสดงหรือไม่
๒๔. เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ต้องหามาก่อนหรือไม่