วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

คำพิพากษาคดีปล่อยเงินกู้และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา

คำพิพากษาด้วยวาจา                                                                                         คดีหมายเลขดำที่ 5214/2552
                                                                                                                         คดีหมายเลขแดงที่ 5222/2552
                                                                    ศาลแขวงเชียงใหม่
                                                                         ความอาญา
พนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ โจทก์
นาย จ.    จำเลย
เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา  ความผิดต่อประกาศคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 58
                โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ  ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2552  เวลาใดไม่ปรากฏชัด  จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเยาวชนได้แยกดำเนินคดีไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่แล้ว  ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน  กล่าวคือ  อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 ข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 14 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน และประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2548  กำหนดให้กิจการการให้สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน อันเป็นกิจการการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับดูแลที่ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยจำเลยกับพวกได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว ครั้นตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น จำเลยกับพวกซึ่งไม่ใช่นิติบุคคลและมิใช่สถาบันการเงินได้ร่วมกันประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับดูแลที่ต้องขออนุญาตโดยจำเลยกับพวกได้ร่วมกันให้นาง ม.  และบุคคลผู้มีชื่อจำนวนหลายราย  กู้ยืมเงินของจำเลยกับพวกไปโดยไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกันทั้งนี้  จำเลยกับพวกได้ร่วมกันประกอบธุรกิจดังกล่าวในทางการค้าเป็นปกติ  โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ภายหลังที่จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องแล้ว จำเลยกับพวกร่วมกันเป็นเจ้าหนี้ให้นาง ม. และให้บุคคลผู้มีชื่อเป็นลูกหนี้จำนวนหลายรายกู้ยืมเงินของจำเลยกับพวกไปและเก็บเงินกับลูกหนี้เป็นรายวัน โดยจำเลยกับพวกให้ นาง ม. และให้บุคคลผู้มีชื่อกู้ยืมเงินจำนวน 5,000 บาท ซึ่งลูกหนี้กู้ยืมจะต้องชดใช้คืนเงินต้นจำนวนคงที่และเรียกเก็บค่าดอกเบี้ยวันละ 100  บาท  ถ้าเงินต้นยังคืนไม่ครบจำนวนที่กู้ยืมไป ลูกหนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ  จนกว่าลูกหนี้จะชำระเงินต้นครบ  โดยจำเลยกับพวกคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราเบี้ยร้อยละ 15  ต่อปี  ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย  เหตุเกิดที่ตำบลตลาดขวัญ  อำเภอดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่
             พิพากษาว่า  จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3  ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58  ลงวันที่ 26 มกราคม 2515  ข้อ 516  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91  จำเลยให้การรับสารภาพเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาคดี  มีเหตุบรรเทาโทษ  ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78  ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน และปรับ 5,000 บาท ฐานร่วมกันคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  จำคุก 3 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 6 เดือน และปรับ 5,500  บาท  โทษจำคุกให้รอลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2930  ริบของกลาง
(ขอขอบคุณบทความจาก  ทนายคลายทุกข์  http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=5121 )

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘  ลง ๒๖ ม.ค.๒๕๑๕
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกํากับ)  ลง ๒๖ ธ.ค.๒๕๕๗ 
พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พุทธศักราช ๒๔๗๕