กรณีแชร์ลูกโซ่และฉ้อโกงประชาชน
1. ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1 และ 12
2. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83, 341 และ 343
3. ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรง
และดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรง
โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว
ที่คำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น
และร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยดำเนินกิจการที่ไม่เป็นไปตามแผนการจ่ายตอบแทนของตนที่ได้ยื่นต่อนายทะเบียนไว้
ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19, 21, 46 และ 48
4.
ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ข้อ 5 และ 16 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
กิจการที่ต้องขออนุญาต ตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58
(การประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์) ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2547 ข้อ 1, 2, 5, 9, 15
ประกาศกระทรวงการคลังเรื่องกิจการที่ต้องขออนุญาต ตามข้อ 5
แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (การประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์)
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 ข้อ 1, 2, 5
5.
ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 และ 14
6.
ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.
2556 มาตรา 3, 4, 5, 6,
7 และ 25
การกระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร
ซึ่งต้องรับโทษตามกฎหมายไทย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20
โดยอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
(ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์สำนักงานอัยการสูงสุด กรณียื่นฟ้องบริษัท
ยูฟัน สโตร์ จำกัด ลงวันที่ 3 ก.ค.2558)